มารู้จักกับ Jas-39 Gripen
กริเพนไม่มีหางหลัง แต่ใช้ปีกเสริมด้านหน้า(Canard)เพิ่มความคล่องตัวและแรงยก
JAS ย่อจาก Jakt (อากาศสู่อากาศ), Attack (อากาศสู่พื้น), and Spaning (ลาดตระเวน)
* ความเร็วสูงสุด: มัค 2 (เร็วกว่าเสียงสองเท่า)
* พิสัยปฏิบัติการ: 800 กิโลเมตร
* เพดานบิน: 15 กิโลเมตร
* บรรทุกน้ำหนัก(อาวุธ/น้ำมัน)ได้: 8ตัน
* อัตราการไต่ระดับ: 20,000 ฟุตต่อนาที
* ค่าดูแลรักษา: 90,000บาทต่อหนึ่งชั่วโมงบิน
* เข้าประจำการครั้งแรก: ปี1997
การมีเครื่องบินค่าดูแลรักษาต่ำมีสำคัญ เพราะนักบินจะได้ฝึกซ้อม ใช้งานเครื่องบ่อยจนคุ้นเคยถึงคราวเกิดสงครามจริงๆจะได้ไม่งงว่าปุ่มนี้ทำอะไร สตาร์ทตรงไหน ยิงจรวดยังไง
กริเพนบินขึ้นได้จากถนนหลวงขนาดกว้างเพียง 9 เมตร ยาว 400 เมตรเท่านั้น
ตรงนี้เป็นความสามารถที่กริเพนทำได้เครื่องเดียวในโลกเพราะสวีเดนมีนโยบายทางทหารเหมือนไทยคือรับไม่ใช่รุก สมมติเกิดสงครามแล้วสนามบินใหญ่ๆอย่างดอนเมือง ตาคลี อู่ตะเภาถูกทำลาย เราก็ยังให้กริเพนขึ้นต่อสู้จากถนนหลวงและหาถนนสายเหนือ อิสาน ตะวันออกตรงจุดเรียบๆ ใช้ลงจอดได้
พูดถึงรบทางอากาศท่านผู้อ่านคงมีภาพของเครื่องบินรบบินไล่กวดกันกลางอากาศเหมือนในหนัง ต่างฝ่ายต่างหาท่าพลิกแพลงเพื่อวางตำแหน่งเครื่องตัวเองให้อยู่ท้ายข้าศึก ล็อคจรวดแล้วยิงออกไปในระยะเผาขนแบบเกม Ace combat อย่างไรอย่างนั้น
ยุคการพันตูตะลุมบอนแบบในเกมหมดสมัยไปนานเป็นสิบปีแล้ว การรบทางอากาศสมัยใหม่ส่วนใหญ่ฆ่ากันตั้งแต่ ยังไม่เห็นจมูกเครื่องบินอีกฝ่ายด้วยซ้ำไป
Amraam ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศของสหรัฐ พิสัยสังหารร้อยกิโลเมตร
ถึงความคล่องตัวในระยะใกล้ของกริเพนแม้จะสูสีกับ F16 สู้ Su30 ไม่ได้ แต่โอกาสที่ Su จะเข้ามาใช้ท่าบินในระยะประชิดก็มีน้อย เพราะสงครามทางอากาศสมัยใหม่ไม่ได้พึ่งปืนกลอากาศหรือจรวดยิงระยะประชิดอีกต่อไป
การรบ BVR หรือ Beyond Visual Range แปลไทยว่านอกระยะสายตานั้น มีอาวุธสำคัญสองอย่างคือเรดาห์และจรวดนำวิถี หลักการคือเปิดเรดาห์กวาดหาศัตรู...เมื่อพบแล้วก็ล็อคจรวดยิงปลิดชีพ่จากระยะเกือบ 100 กิโลเมตร
เมื่อเป็นเช่นนี้หัวใจสำคัญของเครื่องขับไล่ยุคใหม่คือ
1.ระยะเรดาห์ว่าใครเห็นใครก่อน
2.เครื่องใครโดนตรวจจับบนเรดาห์ได้ง่ายกว่ากัน
3.ระยะและความแม่นยำของจรวดนำวิถี
การใช้เรดาห์ก็ใช่ว่าจะเปิดค้างตลอดเวลา เพราะเมื่อใดที่คุณเปิดใช้งานมันข้าศึกก็จะจับสัญญาณได้ เห็นคุณทันทีเช่นกัน
เรดาห์ของกริเพนมีระยะไกลกว่าF16 สูสีกับซูแถมยังละเอียดกว่า ใหม่กว่า แถมขนาดที่เล็กของกริเพนยังทำให้ข้าศึกตรวจจับด้วยเรดาห์ได้ยากอีกด้วย
ที่สำคัญมากคือกริเพนมีระบบส่งข้อมูลไฮเทคที่สามารถรับข้อมูลเรดาห์จากสถานีซึ่งอยู่ไกลออกไป 500 กิโลเมตรโดยไม่ต้องเปิดเรดาห์ให้ใครเห็น
ปัจจุบันมีกริเพนและ F22 เครื่องบินรุ่นก้าวหน้าของสหรัฐที่ไม่มีวันขายให้ใครเท่านั้นที่ใช้ระบบนี้ ซู30 มิก29 และ F16 ไม่มีความสามารถทำได้ กริเพนจึงได้เปรียบมากในการรบเลยระยะสายตาเพราะสามารถเห็นศัตรูได้ตั้งแต่ 120 กิโลเมตร(ด้วยเรดาห์บนเครื่อง) หรือ 450 กิโลเมตร(ด้วยเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น